สวัสดีคะ

ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของ Dr.Slum คะ บล็อกนี้สร้างขึ้นเพื่อสะสมความรู้(สำหรับตัวเอง)เกี่ยวกับพลังงานและเครื่องยนต์คะ เน้นความรู้เบื้องต้นที่ง่ายๆคะ หากคุณผู้อ่านพบว่าบทความที่โพสท์มีข้อผิดพลาด กรุณาแนะนำด้วยนะคะ ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมคะ

สารบัญบทความ

22 August 2008

โลกกำลังเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง

สวัสดีคะ

วันนี้มีคลิป vdo มาให้ชมกันคะ
เป็นสารคดีจากอังกฤษ
เค้าสันนิษฐานว่าภาวะโลกร้อนจะทำให้โลกเราเข้าสู่ยุคน้ำแข็งคะ
มีทั้งหมดสี่คลิปด้วยกัน เรียงให้ตามลำดับแ้ล้ว
ทั้งสี่คลิปรวมกันก็ประมาณ 27 นาทีคะ









อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง


ในคลิปดิฉันรู้เพียงว่าเกี่ยวกับกระแสน้ำอุ่นที่ไหลไปยุโรปจะถูกบล็อกไว้
ทำให้ยุโรปเข้าสู่ยุคน้ำแข็งในที่สุด
นักวิทยาศาสตร์เค้าคาดว่าจะเกิดภายใน 20 ปี (จาก 2003 คะ)
รู้เท่านี้จริงๆคะ นอกนั้นฟังไม่เข้าใจ ^^!

เซลล์เชื้อเพลิง ตอนที่ 2

สวัสดีคะ

พบกับดิฉันต่อในบทความที่แปดแล้วนะคะ
คราวที่แล้วดิฉันติดค้างท่านผู้อ่านเกี่ยวกับเซลล์เชื้อเพลิง
ก่อนเข้าสู่เซลล์เชื้อเพลิงผมขอเกริ่นเกี่ยวกับน้ำก่อนนะคะ
เพราะเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับเซลล์เชื้อเพลิงคะ

น้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกชีวิตบนโลก
ทุกชีวิตจริงๆนะคะ คนทุกคน สัตว์ทุกตัว
ทั้งเล็กจนมองไม่เห็นกระทั่งใหญ่เท่าบ้านอย่างปลาวาฬ
รวมถึงต้นไม้ทุกต้นในโลก ทุกชีวิตต้องการน้ำ

น้ำประกอบขึ้นจากโมเลกุลไฮโดรเจน(H) รวมกับ โมเลกุลของออกซิเจน(O)
โดยมีสัดส่วนไฮโดรเจนสองอะตอมต่อออกซิเจนหนึ่งอะตอม
เราจึงเขียนสัญลักษณ์ทางเคมีแทนน้ำด้วย H2O

และสำหรับก๊าซไฮโดรเจนก็คือการรวมกันของสองอะตอมไฮโดรเจน(H+)
ก๊าซไฮโดรเจนหนึ่งโมเลกุลจึงเขียนแทนด้วย H2

ธาตุอีกชนิดที่สำคัญกับการมีชีวิตอยู่ของเราก็คือออกซิเจนคะ (O2)
ในอากาศที่เราอาศัยอยู่นี้ประกอบด้วยออกซิเจนประมาณ 20-21% คะ

หากเรานำไฮโดรเจนและออกซิเจนในอากาศมารวมกัน
สิ่งที่ได้คือน้ำและความร้อนครับ ดังปฏิกิริยา

2H2 + O2 --> 2 H2 O + energy (heat)

[(ไฮโดรเจน) + (ออกซิเจน)] = [(น้ำ) + (ความร้อน)]

ความร้อนก็คือพลังงานรูปหนึ่ง แต่ใช่ว่าเราต้องการความร้อนจากไฮโดรเจน
เราอยากได้อะไรก็ตามที่สามารถหมุนล้อรถยนต์ของเราได้โดยไม่ต้องพึ่งน้ำมัน
เราต้องการไฟฟ้าใช้โดยไม่ต้องพึ่งน้ำมัน
เราต้องการพลังงานกลและพลังงานไฟฟ้าสำหรับรถยนต์และบ้านเรือนครับ
เราไม่ได้ต้องการพลังงานความร้อนคะ

ดังนั้นหากเรานำก๊าซไฮโดรเจนที่ผลิตได้ไปใช้แทนน้ำมันในรถยนต์
แน่นอนครับเราได้พลังงานกลจากแรงระเบิดที่เกิดจากการเผาไหม้
ภายในกระบอกสูบแล้วผลักลูกสูบให้เคลื่อนหมุนเพลาและล้อ
ตามปฏิกิริยาการเผาไหม้ข้างต้นครับ แต่นอกจากพลังงานกลแล้ว
เรายังได้ความร้อนด้วยครับแต่ความร้อนที่ได้นี้เป็นความสูญเสียคะ
เพราะเราไม่ได้ต้องการนำความร้อนไปใช้คะ

จึงได้มีไอเดียนำเซลล์เชื้อเพลิงมาใช้เป็นต้นกำลังแทนเครื่องยนต์คะ

ซึ่งเซลล์เชื้อเพลิงสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องมีการเผาไหม้คะ
แล้วเราก็นำพลังงานไฟฟ้าที่ได้นี้ไปแปลงเป็นพลังงานกลต่อไงคะ
เซลล์เชื้อเพลิงให้ประสิทธิภาพสูงมากครับตั้งแต่ 50% ถึง 90% เลยนะคะ ทั้งนี้ขึ้นกับชนิดของเซลล์เชื้อเพลิงคะ

ขณะที่เครื่องยนต์ที่เราใช้ทุกวันนี้มีประสิทธิภาพเพียง 10-30% เท่านั้นเองคะ !
หมายถึงพลังงานในน้ำมัน 100 หน่วย เครื่องยนต์แปลงออกมาให้เราใช้จริง
แค่ 10-30 หน่วยเท่านั้นเองคะ
หายไปกับความร้อนและอื่นๆถึง 70-90 หน่วยทีเดียวคะ
แถมน้ำมันฟอสซิลและเครื่องยนต์ยังก่อให้เกิดมลภาวะมากมาย
จากสารจำพวก CO, CO2, NOx เพราะสารเหล่านี้ทำให้โลกร้อนคะ
จากการเก็บอมความร้อนไว้ในโลกได้นานและมากขึ้นนั่นเองคะ

ถามว่าโลกร้อนแล้วไง ?
เมื่อโลกร้อนมากขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกจะเริ่มละลาย
ทำให้น้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ทำให้พื้นที่ผิวของน้ำทะเลเพิ่มมากขึ้น
น้ำในโลกก็จะระเหยในอัตราเร่งมากขึ้นจากความร้อนนั้น
บรรยากาศโลกจะอุ้มน้ำมากขึ้นแล้วก็จะชื้นมากขึ้น
โลกปกคลุมด้วยไอน้ำความชื้น แดดส่องผ่านเข้ามาได้ลดลง
แล้วน้ำก็จะตกลงมากับฝนมากขึ้น ฝนจึงตกหนักมากขึ้นน้ำจะท่วมรุนแรงมากขึ้น
(กรุงเทพฯเราน่าห่วงมากคะไหนจะน้ำทะเลสูงขึ้นไหนจะดินทรุด สองเด้ง
ผมว่าภายในสิบปีนี้เราจะมีเขื่อนกั้นน้ำทะเลท่วมกรุงเทพฯแน่ๆคะ)

สุดท้ายในวันใดวันนึง
โลกเราจะเกิดเหตุการณ์อากาศเย็นจัดฉับพลัน
กลับไปเป็นโลกยุคน้ำแข็งอีกรอบ แบบทันทีทันใดคะ
บ้างก็ว่าโลกร้อนจะเปลี่ยนแปลงการไหลของกระแสน้ำอุ่น
ที่ไหลจากแถบศูนย์สูตรไปซีกโลกเหนือ ก่อให้เกิดโลกยุคน้ำแข็งตามมา



คลิปข้างบนนี้เค้าคาดการณ์ว่าโลกจะเป็นน้ำแข็งจากปริมาณ particles
ที่ลอยขึ้นไปปกคลุมบรรยากาศโลกไปบล็อกแสงแดดไม่ให้ส่องลงมายังโลก
ไม่ว่าเส้นทางการเปลี่ยนแปลงจากภาวะโลกร้อนจะเป็นอย่างไรก็ตาม
แต่สุดท้าย ปลายทางของการเปลี่ยนแปลงกลับเหมือนกัน นั่นคือ ยุคน้ำแข็ง

ดิฉันเปล่าโม้นะคะ
ดิฉันมีตัวอย่างเหตุการ์ืจริงมาให้ดูด้วยนะคะ
เป็นข่าวจาก BBC เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมาไม่กี่วันนี้เองคะ
ที่กรุงโบโกต้า เมืองหลวงของประเทศโคลัมเบียเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นที่นั่นครับ มีฝนพายุลูกเห็บถล่มลงมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ฝรั่งเรียก Freak Hail Storm คือเป็นพายุลูกเห็บแบบแปลกประหลาด
อยู่ๆก็มีพายุลูกเห็บกระหน่ำลงมาครับในวันแสนธรรมดาวันนึง
เป็นเหตุให้รถยนต์หลายสิบคันที่กำลังสัญจรไปมาบนถนนโล่งๆที่ไม่มีหิมะ ไม่มีฝน ต้องจมอยู่ในกองน้ำแข็งขนาดมหึมาในพริบตา !
ผู้คนพร้อมรถยนต์ถูกแช่แข็งทันทีเหมือนอยู่ในช่อง Freeze ตู้เย็นยังไงยังงั้นเลยคะ
หน่วยกู้ภัยต้องช่วยกันขุดน้ำแข็งและงัดรถเพื่อนำร่างผู้ที่ติดอยู่ในรถออกมา
เราจะเห็นว่าผู้ประสบภัยตัวแข็ง งอเข่าก็ไม่ได้ครับ แบกออกมาทั้งแข็งๆแบบนั้นเลย
เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือนเล็กๆจากธรรมชาติคะ


ชมไม่ได้คลิกที่นี่ครับ โหลด Flashplayer 9.0.45

แต่ที่ดิฉันกล่าวถึง เป็นแบบเฉียบพลันพร้อมกันทั้งโลกคะ
ภาวะโลกร้อนจะทำให้โลกเย็น!? ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อคะ
เพราะทุกอย่างต้องการเข้าสู่ภาวะสมดุลคะ
ประจุบวกต้องการประจุลบ แรงกิริยาต้องการแรงปฏิกิริยา
ลูกตุ้มที่เหวี่ยงไปสุดด้านหนึ่งแล้วย่อมเหวี่ยงกลับมาสุดอีกด้าน
สปริงที่ถูกดึงย่อมมีความพยายามที่จะหดตัวกลับเข้ามา
เมื่อร้อนแล้วก็ต้องเย็นคะ แล้วจึงเกิดการปรับสมดุลระบบครั้งใหญ่ตามมา
เกิดสิ่งมีชีวิตแบบใหม่ที่เหมาะกับภาวะสมดุลแบบใหม่นั้น
ก็แบบเดียวกับที่เรามาแทนไดโนเสาร์นั่นแหละคะ
ไม่รู้ว่าอะไรจะมาแทนพวกเราชาวมนุษย์โลกนะคะ ^^
เห็นไหมครับผมหลงอีกแล้วคะ คราวนี้มาหลงอยู่ในดงไดโนเสาร์ ^^!

ย้อนกลับมาที่เซลล์เชื้อเพลิงต่อนะคะ
ดูภาพ animation แสดงการทำงานของเซลล์เชื้อเพลิงก่อนนะคะ
คุณผู้อ่านลองไล่ตามการเคลื่อนที่ของประจุต่างๆดูสิคะ


animated image showing the function of a PEM  fuel cell



ทีี่นี้มาลองไล่ดูการเคลื่อนที่พร้อมกันนะคะ

ที่ทางเข้า
เริ่มจากโมเลกุลของก๊าซไฮโดรเจน(สีแดง)
ไหลมาจากถังบรรจุก๊าซไฮโดรเจนมาเจอกับสาร electrolyzer
แล้วแตกออกเป็นโปรตอน(ประจุบวก H+) กับ อิเล็กตรอน(ประจุลบ e-)
แล้วทั้งโปรตอนและอิเล็กตรอนก็แยกกันไหลไปคนละทาง
โดยโปรตอนไหลทะลุผ่าน Membrane ไปยังฝั่งตรงข้าม
ส่วนอิเล็กตรอนไหลออกจากตัวเซลล์ผ่านวงจรภายนอก
เส้นทางที่อิเล็กตรอนไหลผ่านมีหลอดไฟเชื่อมอยู่ด้วย
เวลาที่อิเล็กตรอนไหลผ่านหลอดไฟก็ติดสว่าง

ที่ทางออก
ปรากฏว่ามีโมเลกุลของออกซิเจนหรืออากาศวิ่งเข้ามาจากภายนอก
ไหลมารวมกับอิเล็กตรอน โปรตรอน ณ ผิวสัมผัสของ electrolyzer
กลายเป็นหยดน้ำไหลออกทางท่อไอเสียไป(Exhaust)

แผนภาพที่เราดูอยู่นี้
เป็นภาพสมมุติเหตุการณ์ภายในเซลล์เชื้อเพลิงชนิด PEM คะ
เป็นเซลล์เชื้อเพลิงที่จะถูกนำมาใช้ในรถยนต์อนาคต
คราวหน้าผมจะกลับมาพร้อมกับความพยายามเพื่อที่จะอธิบายว่า
ทำไมภายในเซลเชื้อเพลิงจึงเกิดเหตุการณ์อย่างที่เราเห็นกันคะ
แล้วเราจะได้อะไรจากการทำงานของเซลล์เชื้อเพลิงบ้าง

คุณคะติดตามผมต่อไปนะคร้า (^0^)

เซลล์เชื้อเพลิง ตอนที่ 1

สวัสดีคะท่านผู้อ่าน

พบกับดิฉันในบทความที่เจ็ดแล้วนะคะ ^^
เมื่อสองสามวันก่อนดิฉันได้ดูข่าวเศรษฐกิจทาง T_itv
โดยมีคุณสร้อยฟ้า โอสุคนธ์ทิพย์ เป็นผู้ประกาศข่าว
เธอได้เปรียบเทียบให้ผู้ชมฟังพอสรุปได้ว่า..
เมื่อสิบปีที่แล้วประเทศไทยใช้เงินซื้อน้ำมันเป็นเงินสองแสนล้านบาทต่อปีคะ
เยอะมากเลยใช่ไหมคะ
ทราบไหมครับปีนี้ 2550 เราต้องจ่ายเงินค่าน้ำมันต่อปีเป็นเงินเท่าไหร่คะ
คุณสร้อยฟ้า รายงานว่า..เราจ่ายไปปีเดียวกว่าแปดแสนล้านบาทคะ!!

ในหนึ่งปีของการใช้รถ ใช้ไฟฟ้า
ประชาชนชาวไทยต่างพากันหาเงินตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต
ก็เพื่อมาซื้อน้ำมัน..ถึงปีละแปดแสนล้านบาทคะ!!
นี่ขนาดว่าเงินบาทเราแข็งค่าขึ้นมาตั้งเยอะนะคะ
น่าตกใจมากเลยนะคะ

หากเราลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับน้ำมัน
จากแปดแสนล้านมาเป็นสักสามแสนล้านบาท
เราจะมีเงินเหลือถึงห้าแสนล้านบาท


จินตนาการไม่ออกเลยนะครับเงินห้าแสนล้านบาท
เงินจำนวนนี้เราสามารถนำไปใช้..แก้ปัญหาภาคใต้,
ใช้แก้ปัญหายาเสพติด, ใช้แก้ปัญหาการค้ามนุษย์,
ส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชน, สร้างระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัย,
อุดหนุนการวิจัยพลังงานทดแทน และอะไรต่อมิอะไรได้อีกตั้งมากมาย
บ้านเมืองสังคมก็จะมั่นคงและเป็นสุขกว่าที่เป็นอยู่แน่ๆคะ
ด้วยเงินที่เหลือจากการลดการใช้น้ำมันของคนเจ็ดสิบล้านคนรวมกันไงคะ

ยังมีอีกคะ เรายังต้องสูญเสียทรัพย์สินไปกว่าปีละสองแสนล้านบาท
จากอุบัติเหตุที่เกิดจากคนที่เมาสุรา
แล้วยังไปร่วมใช้รถใช้ถนนกับชาวบ้านที่เค้าไม่ได้เมานะสิคะ



น่าเสียดายมากเลยใช่ไหมคะ ทั้งเจ็บ ตาย พิการ..
การดื่มสุราเปรียบไปก็คล้ายการทำลายชาติกลายกลายนะคะเนี่ย
เราเสียโอกาสจากการใช้เงินสองแสนล้านบาทไปเฉยๆจากการเมาสุรา
ถึงเมาไม่ขับ แต่ก็อาจก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำลายข้าวของ
ก่ออาชญากรรม เที่ยวสถานเริงรมย์
แล้วก็จบที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยาง ช่วยกันแพร่เอดส์อีก
เพื่อนที่ชื่อนายสุราเนี่ยไม่มีอะไรดีเลยคะ อย่าไปคบเลยคะ
อ้อ แล้วก็ทำให้สมองเสื่อมด้วยคะ
ดิฉันหวังว่าท่านผู้อ่านที่เคารพของผมคงไม่ใช่นักดื่มนะคะ ^.^
[ตั้งใจจะพูดเรื่องไฮโดรเจนไหงมาหลงอยู่ในดงคนเมาหละเนี่ย]

ขอเข้าเรื่องสักที [^_^]
เมื่อคราวที่แล้วดิฉันได้เขียนถึงวงจรการใช้ไฮโดรเจนของสังคมอนาคต
จะพบว่ามีสิ่งที่ทำหน้าที่สำคัญในวงจรดังกล่าวที่ขาดไม่ได้เลย
นั่นคือ..เซลล์เชื้อเพลิง หรือ Fuel Cells นั่นเองคะ

ท่านผู้อ่านสงสัยไหมคะว่ามันคืออะไร
ดิฉันก็สงสัยคะ
ดิฉันได้อ่านบทความง่ายๆเกี่ยวกับเซลล์เชื้อเพลิง
[อะไรยากดิฉันไม่อ่านหรอกคะ เพราะอ่านไม่เข้าใจ ^^]
แล้วก็นำมาสรุปคร่าวๆได้อย่างนี้คะ

เซลล์เชื้อเพลิงเป็นอุปกรณ์เคมีไฟฟ้าสามารถแปลงพลังงานเคมี
ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยไม่มีการเผาไหม้
เซลล์เชื้อเพลิงมีความคล้ายคลึงกับแบตเตอรี่แต่ไม่ใช่แบตเตอรี่แน่นอนคะ
ในขณะที่แบตเตอรี่แปลงพลังงานเคมีเป็นพลังงานไฟฟ้า
โดยไม่มีการเผาไหม้เช่นเดียวกัน แต่แบตเตอรี่มีความจุพลังงานที่จำกัด
เมื่อพลังงานหมดจำเป็นต้องชาร์จพลังงานเข้าไปใหม่อีกครั้ง
ก็อย่างมือถือไงคะ แบตหมดปั๊บ จอดับปุ๊บ ตัดการสนทนาทันที
จะใช้ได้อีกก็ต่อเมื่อเราได้นำไปชาร์จไฟคะ แล้วก็ต้องรอ..ร้อ..รอ
ในขณะที่เซลล์เชื้อเพลิงสามารถให้พลังงานไม่จำกัดคล้ายกับเครื่องยนต์
เพราะพลังงานของเซลล์เชื้อเพลิงขึ้นกับปริมาณสารตั้งต้นที่จ่ายอย่างต่อเนื่อง
คล้ายกับน้ำมันในถังคะ
หากในถังยังมีน้ำมันจ่ายให้เครื่องยนต์ เราก็ยังขับรถไปไหนต่อไหนได้
เมื่อน้ำมันหมดเราก็เติมน้ำมันแล้วก็ไปต่อ ไม่ต้องรอชาร์จไฟ
โดยสารตั้งต้นที่ใช้ก็คือไฮโดรเจนกับออกซิเจนคะ
หรืออาจจะเป็นเชื้อเพลิงชนิดที่มีไฮโดรเจนปนอยู่อย่างเข้มข้นก็ได้คะ

เอ..แล้วเซลล์เชื้อเพลิงหน้าตาเป็นยังไงแล้วมีกี่ชนิดอะไรบ้าง
มีเซลล์เชื้อเพลิงมากมายหลายชนิดเลยคะ

แต่โดยหลักๆมีองค์ประกอบที่คล้ายกันคือ

1. ประกอบด้วยขั้วไฟฟ้าสองขั้ว(ขั้วบวกกับขั้วลบ)

2. มีสารเร่งปฏิกิริยาเคมีที่ฝรั่งเรียกว่า electrolyzer

เค้าก็เลยนิยมแยกประเภทของเซลล์เชื้อเพลิงตามสารเคมีที่ใช้
บางทีก็แบ่งตามสถานะของสาร electrolyzer
ว่าเป็นชนิดแข็งหรือเหลว เป็นต้น
สารที่ทำหน้าที่เป็นตัว electrolyzer นี่สำคัญมากทีเดียวคะ
เพราะเป็นตัวกำหนดอุณหภูมิการทำงานของเซลล์
กำหนดลักษณะงานที่จะนำไปใช้ (applications)
รวมทั้งต้นทุนของเซลล์เชื้อเพลิงด้วยครับ
ถ้าจะให้กล่าวถึงทั้งหมดผมคงไม่สามารถแน่ๆคะ
ดิฉันจะขอกล่าวถึงเฉพาะเซลล์เชื้อเพลิงชนิดที่นิยมนำมาใช้ในรถยนต์เท่านั้นคะ

เซลล์เชื้อเพลิงชนิดที่นิยมนำมาใช้ในรถยนต์ก็คือ PEM คะ
บางสำนักก็ว่า ย่อมาจาก Proton Exchange Membrane
บางสำนักก็ว่า ย่อมาจาก Polymer Electrolyte Membrane
แต่ทั้งสองที่มาก็คือ PEM อย่างเดียวกันนั่นละคะ
บางครั้งก็ใช้ PEMFC โดย FC ก็คือ Fuel Cells คะ
นิยมใช้พลาทินั่ม (platinum) เป็นสาร electrolyte คะ
ในรถยนต์ปัจจุบันก็มีการนำพลาทินั่มมาใช้อยู่แล้วคะ
คือใช้ในตัว Catalytic Converter หรือที่เรียกว่า CAT
เพื่อช่วยแปลงก๊าซไอเสียที่เป็นมลภาวะให้เป็นก๊าซที่ไม่มีมลภาวะ
ตัวพลาทินั่มนี่เป็นโลหะที่มีค่ามีราคาสูง ฝรั่งเรียก noble metal คะ
ราคาของรถที่ติด CAT ก็แพงตาม และเซลล์เชื้อเพลิงที่ใช้พลาทินั่มก็แพงด้วย
ดังนั้นงานวิจัยไฮโดรเจนส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่เซลล์เชื้อเพลิงนี่แหละคะ
วิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์เชื้อเพลิงโดยที่ใช้พลาทินั่มน้อยๆ
และอีกอย่างพลาทินั่มก็ไวต่อการเร่งให้เกิดคาร์บอนมอนนอกไซด์(CO)
เค้าก็กำลังเร่งวิจัยเพื่อลดหรือป้องกันการเกิด CO จากพลาทินั่มคะ

ดิฉันนี่เป็นนักวิ่งอ้อมตัวยงเลยคะ ไม่ยอมเข้าเรื่องจริงๆสักที ^^!

ดิฉันว่าบทความนี้ยาวเกินไปแล้วคะ
ดิฉันขอยกส่วนหลักการการทำงานของเซลล์เชื้อเพลิงไปบทความที่แปดนะคะ