สวัสดีคะ
พบกับดิฉันต่อในบทความที่แปดแล้วนะคะ
คราวที่แล้วดิฉันติดค้างท่านผู้อ่านเกี่ยวกับ
เซลล์เชื้อเพลิงก่อนเข้าสู่
เซลล์เชื้อเพลิงผมขอเกริ่นเกี่ยวกับน้ำก่อนนะคะ
เพราะเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับเซลล์เชื้อเพลิงคะ
น้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกชีวิตบนโลก
ทุกชีวิตจริงๆนะคะ คนทุกคน สัตว์ทุกตัว
ทั้งเล็กจนมองไม่เห็นกระทั่งใหญ่เท่าบ้านอย่างปลาวาฬ
รวมถึงต้นไม้ทุกต้นในโลก ทุกชีวิตต้องการน้ำ
น้ำประกอบขึ้นจากโมเลกุลไฮโดรเจน(H) รวมกับ โมเลกุลของออกซิเจน(O)
โดยมีสัดส่วนไฮโดรเจนสองอะตอมต่อออกซิเจนหนึ่งอะตอม
เราจึงเขียนสัญลักษณ์ทางเคมีแทนน้ำด้วย H2O
และสำหรับก๊าซไฮโดรเจนก็คือการรวมกันของสองอะตอมไฮโดรเจน(H+)
ก๊าซไฮโดรเจนหนึ่งโมเลกุลจึงเขียนแทนด้วย H2
ธาตุอีกชนิดที่สำคัญกับการมีชีวิตอยู่ของเราก็คือออกซิเจนคะ (O2)
ในอากาศที่เราอาศัยอยู่นี้ประกอบด้วยออกซิเจนประมาณ 20-21% คะ
หากเรานำไฮโดรเจนและออกซิเจนในอากาศมารวมกัน
สิ่งที่ได้คือน้ำและความร้อนครับ ดังปฏิกิริยา
2H2 + O2 --> 2 H2 O + energy (heat)[(ไฮโดรเจน) + (ออกซิเจน)] = [(น้ำ) + (ความร้อน)]ความร้อนก็คือพลังงานรูปหนึ่ง แต่ใช่ว่าเราต้องการความร้อนจากไฮโดรเจน
เราอยากได้อะไรก็ตามที่สามารถหมุนล้อรถยนต์ของเราได้โดยไม่ต้องพึ่งน้ำมัน
เราต้องการไฟฟ้าใช้โดยไม่ต้องพึ่งน้ำมัน
เราต้องการพลังงานกลและพลังงานไฟฟ้าสำหรับรถยนต์และบ้านเรือนครับ
เราไม่ได้ต้องการพลังงานความร้อนคะ
ดังนั้นหากเรานำก๊าซไฮโดรเจนที่ผลิตได้ไปใช้แทนน้ำมันในรถยนต์
แน่นอนครับเราได้พลังงานกลจากแรงระเบิดที่เกิดจากการเผาไหม้
ภายในกระบอกสูบแล้วผลักลูกสูบให้เคลื่อนหมุนเพลาและล้อ
ตามปฏิกิริยาการเผาไหม้ข้างต้นครับ แต่นอกจากพลังงานกลแล้ว
เรายังได้ความร้อนด้วยครับแต่ความร้อนที่ได้นี้เป็นความสูญเสียคะ
เพราะเราไม่ได้ต้องการนำความร้อนไปใช้คะ
จึงได้มีไอเดียนำ
เซลล์เชื้อเพลิงมาใช้เป็นต้นกำลังแทนเครื่องยนต์คะ
ซึ่ง
เซลล์เชื้อเพลิงสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องมีการเผาไหม้คะ
แล้วเราก็นำพลังงานไฟฟ้าที่ได้นี้ไปแปลงเป็นพลังงานกลต่อไงคะ
เซลล์เชื้อเพลิงให้ประสิทธิภาพสูงมากครับตั้งแต่ 50% ถึง 90% เลยนะคะ ทั้งนี้ขึ้นกับชนิดของ
เซลล์เชื้อเพลิงคะ
ขณะที่เครื่องยนต์ที่เราใช้ทุกวันนี้มีประสิทธิภาพเพียง 10-30% เท่านั้นเองคะ !
หมายถึงพลังงานในน้ำมัน 100 หน่วย เครื่องยนต์แปลงออกมาให้เราใช้จริง
แค่ 10-30 หน่วยเท่านั้นเองคะ
หายไปกับความร้อนและอื่นๆถึง 70-90 หน่วยทีเดียวคะ
แถมน้ำมันฟอสซิลและเครื่องยนต์ยังก่อให้เกิดมลภาวะมากมาย
จากสารจำพวก CO, CO2, NOx เพราะสารเหล่านี้ทำให้โลกร้อนคะ
จากการเก็บอมความร้อนไว้ในโลกได้นานและมากขึ้นนั่นเองคะ
ถามว่า
โลกร้อนแล้วไง ?
เมื่อโลกร้อนมากขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกจะเริ่มละลาย
ทำให้น้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ทำให้พื้นที่ผิวของน้ำทะเลเพิ่มมากขึ้น
น้ำในโลกก็จะระเหยในอัตราเร่งมากขึ้นจากความร้อนนั้น
บรรยากาศโลกจะอุ้มน้ำมากขึ้นแล้วก็จะชื้นมากขึ้น
โลกปกคลุมด้วยไอน้ำความชื้น แดดส่องผ่านเข้ามาได้ลดลง
แล้วน้ำก็จะตกลงมากับฝนมากขึ้น ฝนจึงตกหนักมากขึ้นน้ำจะท่วมรุนแรงมากขึ้น
(กรุงเทพฯเราน่าห่วงมากคะไหนจะน้ำทะเลสูงขึ้นไหนจะดินทรุด สองเด้ง
ผมว่าภายในสิบปีนี้เราจะมีเขื่อนกั้นน้ำทะเลท่วมกรุงเทพฯแน่ๆคะ)
สุดท้ายในวันใดวันนึง
โลกเราจะเกิดเหตุการณ์อากาศเย็นจัดฉับพลัน
กลับไปเป็น
โลกยุคน้ำแข็งอีกรอบ แบบทันทีทันใดคะ
บ้างก็ว่าโลกร้อนจะเปลี่ยนแปลงการไหลของกระแสน้ำอุ่น
ที่ไหลจากแถบศูนย์สูตรไปซีกโลกเหนือ ก่อให้เกิด
โลกยุคน้ำแข็งตามมา